คำทำนายดวงชะตาราศีเมษ ครึ่งหลังปี59 ถึง ครึ่งแรกปี60

ลัคนา/ราศีเมษ ... "แกะภูเขาขนทองคำ" ราศีผู้กล้าเหยียบย่ำทุกอุปสรรคขวากหนาม เป็นปีแห่งความอุตสาหพยายาม เปลี่ยนแปลงวิถีชะตาอย่างรอบคอบ ใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป (ลัคนาสถิตราศีเมษ หรือ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน ถึง 13 พฤษภาคม)

ราศีเมษ ราศีแห่งผู้กล้าท้าชีวิต เป็นราศีของผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเหนื่อยยากลำบากกายใจมาหลายขวบปี เป็นราศีเดียวกับดวงชะตากรุงรัตนโกสินทร์ จึงมักที่จะได้รับข้อสังเกตอย่างง่ายให้ชะตาตนเองว่า “ดวงเมืองดี ดวงคนดี ดวงเมืองแย่ ดวงคนแย่” ... ช่วงเวลาที่ผ่านมาในรอบ 4-5 ปี ชาวราศีเมษ มีเหตุการณ์ในชีวิตที่เรียกว่า ทั้งน่าชื่นชมยินดีรื่นรมย์สมใจและขมขื่นในอารมณ์เรียกว่า ดีแรงและร้ายแรง ซึ่งจะแตกต่างจากคนมิถุนที่ได้เคยบรรยายไว้ก่อนหน้า เพราะพวกคนคู่เข้าดีไม่มาก/ร้ายไม่สุด

ปี 2552-2557 มีเหตุเกิดขึ้นในหลายสถานการณ์ให้คนเมษต้องบริหารชีวิตอย่างเข้มข้นและรอบคอบ ... ทั้งการที่ดาวพฤหัสบดี ครูอาจารย์ผู้บันดาลความสุขสำเร็จโคจรอยู่ในเรือนภพที่เป็นคุณาประโยชน์ในหลายเรื่องราว ทำให้คนราศีเมษสามารถที่จะขยับปรับชีวิตอยู่ในแดนบวก ช่วงปี 2552-2554 คนเมษผู้ที่ทำงานประจำก็จะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดือน ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี ผู้หลักผู้ใหญ่เรียกหาเรียกใช้ เป็นที่ไว้วางใจให้รับผิดชอบงานสำคัญ สำหรับผู้มีธุรกิจของตัวเองก็เห็นลู่ทางแห่งการขยับขยาย “คิด-เปลี่ยน-สร้าง-ทำ” ... แต่ก็นั่นล่ะ ชีวิตมันช่างโหดร้าย เพราะในความก้าวหน้างอกเงยแห่งชีวิตก็มีลิขิตฟ้าเงากรรมมาตัดรอน ... ช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ดวงชะตาที่กำลังมีลู่ทางทะยานสู่สวรรค์ กลับต้องพลิกผันในทางตรงข้าม เมื่อดาวพระเสาร์และดาวพระราหู ค่อยๆเคลื่อนเข้าตีขนาบดวงเมืองเหมือนภัยเงียบ และจากนั้นไม่นานก็ย้ายเข้าสู่ตำแหน่งสร้างความแตกแยกร้าวฉานแก่ดวงชะตา แต่ก็ยังพอประคับประคองได้ ... พอปี 2556-2557 เมื่อทัพหลวงป้องกันพระนครพระพฤหัสบดีหมดแรงสิ้นกำลัง ประกอบกับดาวร้ายมาร่วมราศี กรีฑาทัพถล่มยับเรือนชะตา ... ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างรวดเร็วในหลายอย่าง ทั้งโดนปลดกลางอากาศ บริษัทปิด ลดคนงาน ลดค่าจ้าง ลดคอมมิชชั่น ชะลอการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ถูกโยกย้ายฟ้าผ่า หุ้นส่วนคู่ค้ามีปัญหาถึงขั้นแตกหัก คู่รักคู่ครองที่จับมือเดินกันมาก็มีอันต้องเลิกราแยกทางจากกันไป ... ด้วยเหตุนี้ ชีวิตของคนเมษจึงได้ลุ่มๆดอนๆมาจนถึงปีปัจจุบัน

พอเข้าสู่ปี 2559 ดาวร้ายตีฉากออกจากมุมแห่งความเสียหาย กลับกลายมาเป็นเห็นโอกาสความสำเร็จอันเรืองรอง เพียงแต่ด้วยจังหวะการโคจรผิดปกติของดาวประจำตัวไปมัวยึกยักอยู่ในเรือนภพจุดอับแก่ตัวเองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 59 ทำให้คนเมษเกิดสภาวะจิตตก เครียดหนัก อึดอัด เจ็บป่วย อุบัติเหตุน้อยใหญ่ ถึงขั้นผ่าตัด มีโอกาสได้เดินทางไกลไปต่างประเทศหรือต้องไปทำงานในถิ่นทุรกันดารเข้าถึงยาก หรือ ได้รับมอบหมายงานหินงานยาก ซึ่งสภาวะนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 15 กันยายน 59 แล้วคนเมษจะรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัด ... การที่ดาวพฤหัสบดีย้ายราศีจากราศีสิงห์เข้าสู่ราศีกันย์ มีมุมแห่งความดีและร้ายในสองสถาน ... ถ้าจะเอาด้านร้ายที่ต้องระวัง คือ การที่ดาวพฤหัสบดีเป็นอริแก่ชะตา คนเมษที่มีงานดีมั่นคงอยู่แล้ว แต่แค่หงุดหงิดยัดใจแล้วคิดจะเปลี่ยนงานขอให้ระงับความคิด นอกเสียจากว่าจะถูกบีบบังคับกดดัน นั่นค่อยปล่อยเลยตามเลย นั่นจึงจะกลายเป็นดี ... จากที่เคยได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ ก็จะกลับกลายเป็นหมางเมินเหม็นขี้หน้า คำพูดคำจาจากปากเราก็ดูจะไม่น่าฟังหรือช่างขัดอกขัดใจ หาหมอที่ไหนก็ควรจะไปตรวจซ้ำกับที่อื่น เพราะหมออาจวินิจฉัยผิดพลาด ... ในด้านดี ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ดาวมฤตยูโคจรทับจุดเกิดอันหมายถึง การต่อสู้ พากเพียร เปลี่ยนแปลง ... ถ้าคนเมษปลงใจไว้แล้วว่าพร้อมสู้ พร้อมเหนื่อย ความสำเร็จรุ่งโรจน์สวนกระแสจะบังเกิดด้วยความพยายาม ... มีเหตุจะได้เจอคู่ครองจากการเริ่มต้นเป็นคู่กัด คู่ขัดแย้ง คู่ป่วนกวนอารมณ์ แต่กลับกลายมาลงเอยในที่สุด

สรุปความตามดาว : ชาวแกะภูเขาขนทองคำ ขอให้ย้ำตัวเองไว้เสมอว่า “สู้แล้วปัง” โอกาสมีมาให้เหนื่อย ก็จงเหนื่อยเสียให้คุ้ม เพราะบางคนอยากจะเหนื่อยใจจะขาด แต่โอกาสยังไม่มีมาให้ได้เหนื่อย ... กราบพระสงฆ์ครูอาจารย์เป็นที่พึ่ง สร้างบุญเป็นกิจวัตร จะช่วยขจัดทุกข์ภัยอุปสรรคได้ในหลายประการด้วยแรงอธิษฐานแห่งบุญ ... ชี้ชัดครับ !!