การบูชาเทวดานพเคราะห์เป็นลัทธิที่นิยมทำกันอยู่ ... ความประสงค์ คือ
ปรารถนาให้เทพยดาผู้มีฤทธิ์อำนาจ ช่วยเหลือป้องกันและปลดเปลื้องทุกข์ภัยพิบัติ
ยังความเกษมสวัสดิ์ให้บังเกิดมี เป็นธรรมดาของมนุษย์
เมื่อได้ประสบทุกข์เข็ญก็พยายามหลีกเลี่ยงหรือแก้ไขทุกข์ภัยด้วยอุบายพิธีต่าง ๆ
จึงได้ประกอบพิธีบูชาเทพเจ้าด้วยวรามิสอันวิจิตรบรรจงนานาประการ โดยวิธีทำให้ท่านชอบและหวังผลตอบแทน
คือ ความสุขสราญนิราศภัย
แต่การบูชาเทวดานพเคราะห์เป็นลัทธิไสยศาสตร์ซึ่งต้องอาศัยคติพุทธศาสตร์เข้าแทรกอยู่ด้วยนี้
เป็นข้อสันนิษฐานว่าผู้ที่จะได้เป็นเทวดานั้น ต้องอบรมคุณงามความดีจนบารมีแก่กล้าด้วยตบะญาณ
สิ้นกาลช้านานจึงเป็นเทวดาได้ เมื่อผู้ใดบูชาสักการะเทวดาก็เป็นผู้ที่เคารพ
นับถือและบูชาผู้มีคุณงามความดีนั่นเอง และเป็นอันเชื่อว่าได้บำเพ็ญกรณี ส่วนเทวดาพลีการบูชาผู้ทรงคุณงามความดีจะหาโทษมิได้
ย่อมให้ประสบแต่ผลดี มีมงคล
สิ่งของที่จะต้องใช้ในการประกอบพิธีมากเพราะเป็นพิธีใหญ่
มีการจัดตั้งบัตรพลีบูชาเทพยดาตั้งเครื่องสังเวยเซ่นบวงสรวงเพื่อขอพรเทพยดา
ดาวพระเคราะห์ ซึ่งสถิตในดวงชะตาให้มาช่วยปัดเป่าทุกข์ภัย
บันดาลให้เกิดสวัสดิ์มงคล มีความสุขสมบูรณ์เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งขึ้นปราศจากอุปสรรคหายนะภัยอันตรายทั้งปวง
จึงเรียกว่า “พิธีสวดนพเคราะห์” การสวดนพเคราะห์พระสงฆ์เป็นผู้สวดบทพระปริตรตามกำหนดบทของดาวนพเคราะห์
โดยสวดสลับกันกับโหร ซึ่งโหรทำหน้าที่กล่าวคาถาบูชาเทพยดาเป็นทำนองสรภัญญะ
เมื่อโหรกล่าวคำบูชาเทพยดาจบแล้วพระสงฆ์ก็เจริญพระพุทธมนต์ตามบทของดาวพระเคราะห์สลับกันไปกับโหรที่สวดบูชาเทวดานพเคราะห์องค์นั้น
ๆ จนครบ ๙ องค์
พิธีเจริญมนต์นพเคราะห์แต่เดิมอยู่เฉพาะในวงศ์คฤหบดี เศรษฐี
เจ้านายสูงศักดิ์ เพราะต้องใช้ทุนทรัพย์มากในการจัดพิธี ต้องใช้ทั้งทางพุทธศาสตร์
, โหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ (พราหมณ์) ... อีกทั้งมักจัดพิธีเพื่อเจาะจงเฉพาะบุคคลในวาระการเปลี่ยนดาวเสวยอายุ/ดาวแทรก
หรือในวาระวันเกิด แซยิด .... ต่อมาจึงได้บังเกิดความคิดทางเศรษฐกิจ ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย
จึงเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาทุกเพศทุกวัยทุกฐานะได้เข้าร่วมในพิธีบูชานพเคราะห์เป็นการสะเดาะเคราะห์
เสริมสร้างบารมีให้ดวงชะตาดีเด่นเพื่อความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของชีวิตปัจจุบันและอนาคต
จึงจำต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานพิธีบูชานพเคราะห์ขึ้นเป็นส่วนรวม ตามวาระอันสมควร
โดยใช้ศาลาการเปรียญหรือวิหาร ณ วัดใดวัดหนึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีบูชานพเคราะห์ ...
วาระในการประกอบพิธีก็เช่น ช่วงเวลาที่ดาวใหญ่ยกย้ายเปลี่ยนราศี
(ดาวพฤหัสบดี,ดาวเสาร์,ดาวราหู,ดาวมฤตยู) เป็นต้น ... อีกทั้งได้บังเกิดเป็นพลังบารมีด้วยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
จึงจะประสบผลสำเร็จหรือเป็นผลดีแก่ผู้มีจิตศรัทธาที่มีฐานะด้อยและมีรายได้น้อยโดยเท่าเทียมกันนั่นเอง
หมายเหตุ : มีหลายคนที่มักจะกล่าวว่า #พระพุทธองค์ทรงห้ามการบูชาเทวดา
ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจตีความที่ผิดมหันต์ เนื่องจากองค์สมเด็จพระบรมศาสดา เคยตรัสแก่มหานาม
“ลิจฉวีกษัตริย์” ดังพุทธพจน์ที่ปรากฏอยู่ใน #อปภิหานิยธรรมสูตรปัญจกังคุตตรนิกาย ว่า
“ปุนะ จะปะรัง มหานามะ กุละปุตโตยาตา
เทวตา ตา สักกะโรติ” ... ส่วนแปลว่าอย่างไร
ก็ตามไปหาคำตอบจากเวปไซด์ #กระทรวงวัฒนธรรม ค้นคว้าเพิ่มเติมเอาเองเถิด
แล้วจะเกิดปัญญา มีปรากฏให้หาอ่านอยู่ชัดเจน ... #ชี้ชัดครับ